5 เทรนด์ ระบบรักษาความปลอดภัยยุคใหม่ที่ธุรกิจใหม่ควรมี!
อัพเดทล่าสุด: 3 ต.ค. 2025
176 ผู้เข้าชม
AES Group ได้สรุป 5 เทรนด์สำคัญเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัย ที่เป็นตัวเลือกที่ดีต่อธุรกิจของคุณ
1. AI Video Analytics วิเคราะห์วิดีโอด้วย AI
ยุคปัจจุบันที่ผู้คนนำ AI (Artificial Intelligence) มาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น แบรนด์ระบบรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ จึงพัฒนาซอฟต์แวร์เข้ากับ Ai อย่างระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) มาใช้ในการวิเคราะห์ภาพจากกล้อง ช่วยให้ระบบสามารถตรวจจับบุคคลต้องสงสัย วัตถุแปลกปลอม หรือพฤติกรรมผิดปกติได้แบบเรียลไทม์ ลดการเกิด false alarm หรือสัญญาณเตือนผิดพลาดที่รบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่
ข้อดี
- เพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับเหตุการณ์
- ลดภาระงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
- วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจ (ในธุรกิจค้าปลีก)
2. Integrated Security Systems การบูรณาการระบบรักษาความปลอดภัย
องค์กรขนาดใหญ่เริ่มหันมาใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมจากศูนย์กลางเดียว (Centralized Platform) ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด (CCTV), Access Control, ระบบแจ้งเตือนอัคคีภัย (Fire Alarm), Intrusion Detection ไปจนถึงระบบ Building Automation เพื่อลดระยะเวลาในการวิเคราะห์และรับการแจ้งเตือนความปลอดภัยได้รวดเร็วขึ้น
ข้อดี
- ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบหลายตัว
- เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเหตุฉุกเฉิน
- ควบคุมและตรวจสอบได้อย่างครอบคลุม
3. Mobile Access & Touchless Solutions การเข้าออกแบบไร้สัมผัส
เมื่อโลกเริ่มพัฒนาเข้าสู่ระบบออนไลน์มากขึ้น การใช้สมาร์ทโฟนแทนบัตร Access Card หรือระบบ Touchless Access Control ได้รับความนิยมเพิ่มตามไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหลังยุคโควิด-19 ที่สังคมรณรงค์ลดการสัมผัส แบรนด์ระบบรักษาความปลอดภัยหลาย ๆ แบรนด์จึงยกระดับความปลอดภัยทางออนไลน์ และออกแบบอุปกรณ์ ระบบภายในให้สวยงามเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยให้กับอาคารและผู้ใช้งาน
ข้อดี
- ลดต้นทุนการออกบัตรพนักงาน
- ลดปัญหาการทำบัตรเสียหายและค่าใช้จ่ายด้านต้นทุน
- ปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับผู้ใช้งาน
- สามารถจัดการสิทธิ์การเข้าออกได้ผ่านระบบออนไลน์
4. Cybersecurity for Physical Security Systems ความปลอดภัยทางไซเบอร์
เมื่อระบบรักษาความปลอดภัยเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและ Cloud มากขึ้น ความเสี่ยงจาก Cyber Attack ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย การคุกคามจากโจรกรรมอาจเกิดขึ้นกับระบบ Access Control หรือ CCTV ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล
ข้อดี
- ป้องกันการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กร
- รักษาความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
5. ระบบตรวจจับแผ่นดินไหวและภัยพิบัติในอาคารสูง
เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไทยที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าอาคารสูงจำเป็นต้องมี ระบบตรวจจับแรงสั่นสะเทือนที่สามารถประเมินความมั่นคงของโครงสร้าง เช่น ICOBI 3 จาก Kinemetrics ที่ตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนในอาคาร พร้อมแจ้งเตือนความเสี่ยงต่อโครงสร้าง และ OASIS Plusที่แจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ผ่านมือถือและอีเมลเพื่อเพิ่มโอกาสเอาตัวรอดได้ทันที
ข้อดี
- เพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้อยู่อาศัยและพนักงาน
- ลดความเสียหายจากภัยพิบัติ
- ลดความเสียหายจากภัยพิบัติ
ปี 2025 เป็นปีที่ธุรกิจไทยควรเริ่มลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย โดยเฉพาะระบบที่ผสานเทคโนโลยี AI, IoT และ Cybersecurityเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรของคุณ
พร้อมอัปเกรดระบบรักษาความปลอดภัยของธุรกิจคุณหรือยัง?
ติดต่อ AES Group วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเรา
ติดต่อ AES Group วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเรา
บทความที่เกี่ยวข้อง
Integrate Security System หรือ ระบบรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการ คือการเชื่อมโยง ออกแบบ วางแผนใช้งานระบบรักษาความปลอดภัยหลากหลายประเภท (เช่น กล้องวงจรปิด, ระบบควบคุมการเข้า-ออก, สัญญาณเตือนภัย ฯลฯ) หรือแม้แต่ระบบจากหลากหลายแบรนด์ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
30 ก.ค. 2025
การลงทุนกับความสบายใจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเสมอ การเลือกซื้อ CCTV หรือ กล้องวงจรปิดก็เช่นกัน หลายๆคนอาจมองว่ากล้องวงจรปิดเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่ในยามฉุกเฉิน กล้องวงจรปิดถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความสบายใจ ช่วยระบุ บันทึกข้อมูลที่สำคัญอย่างใบหน้าหรือทะเบียนรถยนต์ และอาจเป็นประโยชน์ในแง่ของกฎหมาย เช่น ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในคดีด้วยเช่นกัน
30 ก.ค. 2025
เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 สร้างความตื่นตระหนกให้กับหลายคน และทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า “หากเกิดแผ่นดินไหว เราควรหนีออกจากอาคารทันที หรือรอจนกว่าการสั่นจะหยุด?”
30 ก.ค. 2025